ทำเว็บไซต์เพื่อ Passive Income หรือการสร้างบล็อก (Blog) ทำเงิน สามารถทำได้จริงมั้ย และถ้าทำได้จริง ต้องทำยังไง บางคนอยากจะได้ Passive income เดือนละ 10,000 จากการเขียน Blog เพื่อเป็นรายได้เสริม บางคนอยากทำ Blog เป็นอาชีพหลักเพื่อเลี้ยงชีพ เลี้ยวครอบครัว ในบทความนี้เราจะมาดูกันครับว่า เราจะทำยังไงให้ Website ของเรากลายเป็นเครื่องมือทำเงิน หรือที่เรียกกันว่า “ทรัพย์สิน” (Asset) สามารถสร้างรายได้ให้เราได้โดยที่อาศัยเพียงแค่การทำงานเพียงครั้งเดียวแล้วให้บทความหรือ blog ของเราทำเงินให้เราไปได้เรื่อยๆ โดยเราไม่ต้องมานั่งทำงานใหม่ทุกครั้งที่อยากได้เงิน

หัวข้อน่าสนใจ
Passive Income คืออะไร
ก่อนอื่นเลยเราคงจะต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าสิ่งที่เรียกว่า Passive Income นั้นมันคืออะไร แล้วมันจะเกิดขึ้นได้ยังไงนะครับ
Passive Income แปลเป็นไทยว่าอะไรไม่แน่ใจครับ แต่คิดว่าพูดทับศัพท์น่าจะเข้าใจกันได้ทุกคน ความหมายของมันก็คือรายได้อะไรก็ตามที่เกิดมาจากตัวมันเอง หรือ การที่เราไปสร้างระบบ,สร้างสินค้าหรือบริการอะไรไว้ซักอย่างนึง แล้วสินค้าหรือบริการเหล่านั้นสามารถทำรายได้ให้เราได้เรื่อยๆโดยที่เราไม่ต้องไปลงแรงหรือเสียเวลากับมันตลอดเวลา ไม่เหมือนกับการที่เราไปทำงานประจำอยู่ทุกวัน หรือรับงาน Freelance มาทำแล้วได้ค่าจ้างต่อครั้ง (นั่นคือ Active Income) นั่นคือเราเอาเวลาและสุขภาพไปแลกเป็นเงิน แต่คำถามก็คือ ถ้าจะมีรายได้เข้ามาแสดงว่าต้องมีการทำงานอะไรบางอย่าง แล้วใครจะทำงานแทนเราล่ะ? ถ้าเกิดคำถามนี้ขึ้นมาในใจแสดงว่ามาถูกทางแล้วล่ะครับ แน่นอนว่าเราจะต้องหาเครื่องมืออะไรซักอย่างนึงมาทำงานแทนเรา
Passive Income ที่แทบจะไม่ใช้เงินลงทุนเลย
พอพูดถึง Passive Income หลายๆคนอาจจะนึกถึงอสังหาริมทรัพย์,การลงทุนในหุ้น,การทำธุรกิจขนาดใหญ่ หรือการขายตรงแบบต่างๆ ที่จะต้องนำเงินไปลงทุนแล้วให้ตัวธุรกิจสร้างผลตอบแทนกลับมาให้เรา ซึ่งนั่นก็ถูกครับสิ่งเหล่านั้นเป็น Passive Income ที่เห้นได้ชัดเจนที่สุดเลย แต่ถ้าคุณเป็นคนทั่วๆไปที่ไม่ได้มี Idea เป็นเลิศที่สามารถคิดอะไรที่คนอื่นเค้าคิดไม่ได้ หรือ ไม่ได้เป็นคนที่มีทักษะการขายเก่งกาจสามารถโน้มน้าวผู้ลงทุนเข้ามาลงทุนได้ หรือไม่ได้มีเงินทุนอยู่แล้ว มันเป็นไปได้ยากมากที่จะสร้าง Passive Income ด้วยการลงเงินหรือลงทุนเพียงอย่างเดียว เนื่องจากว่าเราจะต้องใช้เงินจำนวณมากใส่ลงไปในธุรกิจ เพื่อที่จะได้รับผลตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อกลับมา
สำหรับผม ผมไม่มีเงิน ไม่มีไอเดียสุดล้ำ และไม่มีทักษะในการโน้มนาวคนให้มาลงทุน(และไม่อยากให้ใครมาเป็นเจ้าของสิ่งที่ผมทำด้วย) ทางเลือกทางเดียวที่ดูว่าพอจะมีหวังในตอนนี้ก็คือ ทำเว็บไซต์เพื่อสร้าง Passive Income นั่นเองครับ
เว็บไซต์สร้าง Passive Income ทำได้จริงหรอ?
ไม่แปลกที่จะสงสัยครับ เพราะผมเองก็ถามตัวเองอยู่ทุกวันว่าไอ้ที่ทำอยู่ทุกวันนี่มันคืออะไร ทุกเช้าที่ตื่นนอนอยู่เหมือนกัน และเชื่อว่าหลายๆคนที่กำลังเริ่มเดินมาทางสายนี้ก็คงจะคิดแบบเดียวกันกับผม ขอตอบคำถามก่อนว่าผมคิดว่าและเชื่อว่ามันทำได้จริงครับ เนื่องจากมีตัวอย่างหลายๆตัวอย่างสำหรับ Blog ทำเงิน หรือ Website ต่างๆที่สามารถสร้างรายได้ได้จริงๆจังๆ จดทะเบียนเป็นบริษัททำธุรกิจอย่างชัดเจนทั้งของไทยและต่างระเทศ และโมเดลการสร้างรายได้ก็ดูเป็นเหตุเป็นผล ไม่เกินจริงและไม่ได้เพ้อฝัน เพราะตัวมเองก็เคยเป็นคนที่อยู่ในฝั่งที่เรียกว่า “ลูกค้า” ของ website พวกที่กล่าวมาหลายๆครั้งเลยเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นการสั่งซื้อสินค้า,การสั่งซื้อ Ebook,การซื้อ Course ความรู้ต่างๆ,การหาข้อมูลและจองที่พักเวลาไปเที่ยว และอื่นๆ มันสามารถสร้างรายได้ให้กับ Website ที่เกี่ยวข้องได้จริง เพราะผมเองก็ต้องจ่ายเงินให้พวกนั้นจริงๆเหมือนกัน แถมสินค้าหรือบริการบางอย่างเราซื้อแล้วกรอกข้อมูลบัตรเครดิตครั้งเดียว มันเก็บตังค์เราทุกเดือน(เป็นลักษณะ Subscription) ก็มีเหมือนกันเสียตังค์อยู่เป็นปีๆกว่าจะรู้ตัว คิดดูสิครับ ว่าเจ้าของเว็บจะได้เงินเราไปกินอยู่สบายใจขนาดไหน
แล้วจะสร้าง Website ให้เกิด Passive Income ขึ้นมาได้ยังไง
รีวิว 4 อันดับหนังสือการเงินน่าอ่าน
การที่ทรัพย์สินของเรา หรือ Website ของเราจะสามารถสร้างรายได้ให้เราได้นั้น วิธีการก็คือเราจะต้องทำให้ Website ของเรามันสร้างคุณค่าให้กับผู้อ่าน หรือสามารถช่วยแก้ปัญหา/ตอบคำถามอะไรบางอย่างให้ผู้อ่านของเราให้ได้ นั่นคือ Key สำคัญที่สุดของการทำ Website เพื่อสร้างรายได้เลยล่ะครับ การมี content ที่ดี มีคุณภาพ ก็จะเป็นเครื่องมือเรียก Traffic หรือคนเข้ามาเยี่ยมชม Website ของเราได้มากขึ้น ซึ่ง Traffic นี่ล่ะครับถือเป็นสิ่งสำคัญมากๆ เพราะเราจะนำ Traffic เหล่านี้มาเปลี่ยนเป็นรายได้(Conversion) นั่นเอง
จะหา Traffic เข้า Website ยังไงให้ได้เยอะๆ
- จุดประสงค์(Niches)ของเว็บจะต้องชัดเจน
- Content จะต้องมีคุณภาพ
- มีคุณสมบบัติทางด้าน SEO ที่ดี
- Content ได้รับการโปรโมต
- มีการเก็บ email list ของผู้อ่าน
1.จุดประสงค์(Niches)ของ Website ควรจะชัดเจน
สำหรับการทำ Website หรือ Blog นั้น การกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนเป็นเรื่องที่สำคัญมากครับ เคยมั้ยคิดจะทำธุรกิจอะไรซักอย่าง หรือคิดจะทำ Project อะไรขึ้นมา โดยที่คิดว่ามันจะต้องเป็นประโยชน์กับคนทุกคน อยากจะให้มันขายได้กับทุกๆคน หรืออยากจะทำทุกๆอย่างเต็มไปหมด แต่สุดท้ายก็มักจะล้มเหลวหรือ ไม่สามารถทำให้แผนที่คิดไว้บรรลุได้ เป็นเพราะว่าการไม่มีกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าที่ขัดเจน ทำให้เราไม่มีแนวทางที่ชัดเจนจริงๆว่า Website เราจะไปทางไหน จะผลิต content แบบไหน เพื่ออะไร มันทำให้แต่ละวันที่ผ่านไปไม่มีจุดมุ่งหมายว่า เราจะทำ content หรือบทความเกี่ยวกับอะไร เพื่อใคร เมื่อไม่มีเป้าหมาย เราก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี มานั่งหน้าคอมพิวเตอร์ก็ยังไม่รู้เลยว่าเราจะเขียนบทความเรื่องอะไรดีวันนี้ เขียนมั่วๆไปก็เสียเวลาเปล่า
สุขภาพ,การลดความอ้วน,การเงิน,สินเชื่อ,ประกันภัย Niches ยอดนิยม
Niches ของ Website หรือ Blog ที่เราจะเขียน ควรจะเลือก Niche อะไรดี คำตอบจริงๆอยู่ที่ตัวคนเขียนเองครับ แต่ที่ดีที่สุดก็คือเลือก Niche ที่ตัวเองชอบหรือมี Passion นั่นเองครับ เพราะคิดง่ายๆว่า ถ้าเราจะพูดหรือ Discuss อะไรซักอย่างนึ่งได้อย่างไม่รู้จักหยุดหย่อน มันก็น่าจะเป็นเรื่องที่เราชอบถูกมั้ยครับ เราจะพูดถึงมันได้อย่างคล่องแคล่วและมีไอเดียที่จะเขียนถึงมันได้เรื่อยๆ แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ก็อาจจะลองเลือก Niches ที่ค่อนข้างเป็นที่นิยมเนื่องจากมันเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาในชีวิตประจำวันของคนส่วนใหญ่ครับ เช่น สุขภาพ,การลดความอ้วน,ปัญหาเรื่องการเงิน,การเปรียบเทียบข้อมูลสินค้า เช่น สินเชื่อ,บัตรเครดิต,หรือ ประกันภัยในรูปแบบต่างๆ เช่นประกันสุขภาพ,ประกันชีวิต,ประกันภัยรถยนต์ เพราะเวลาคนจะซื้อประกันก็อยากที่จะหาข้อมูลเปรียบเทียบว่าที่ไหนมีเงื่อนไขดี ที่ไหนเบี้ยประกันถูกนั่นเองครับ เราก็เข้ามาแก้ปัญหาให้เค้าตรงนี้
Niche ท่องเที่ยว อีก 1 Niche ที่น่าสนใจ
การท่องเที่ยว เป็นสิ่งหนึ่งที่มีเรื่องให้เขียนมาก ทั้งการท่องเที่ยวในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศไทยของเราที่เป็นเมืองท่องเที่ยวอยู่แล้ว ทั้งสถานที่และเรื่องน่ารู้มีให้ค้นหาอย่างมากมาย นี่ยังไม่รวมถึงการทำคอนเทนต์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวต่างประเทศ ก็สามารถที่จะ เรียกคนดูได้มากและทำได้ตลอดทั้งปี สินค้าและยริการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวก็มีให้รีวิวอยู่เยอะมาก น่าสนใจมากๆครับ
2.Content จะต้องมีคุณภาพ
เนื้อหาคุณภาพ จะต้องเป็นเนื้อหาที่เกิดจากการศึกษาข้อมูลเชิงลึกอย่างจริงจัง แล้วถึงนำมาเรียบเรียง เขียนเป็นบทความของตัวเอง ที่สำคัญต้องไม่ใช้การ Copy&Paste ครับ เพราะถ้าทำแบบนั้นคนอ่านก็จะไม่ได้ประโยชน์อะไรจาก blog ของเรา และ Google ก็จะ detect ได้แล้วปรับอันดับเราลง หรือไม่ก็อาจจะถึงขั้น De-index หรือไม่เก็บเราไว้ในฐานข้อมูลเลยก็ได้ และที่สำคัญไปกว่านั้นคือความน่าเชื่อถือของ Website เราก็จะไม่มี คนก็จะไม่เข้าในที่สุด
3.มีคุณสมบบัติทางด้าน SEO ที่ดี
เมื่อเรามี content ที่ได้มาจากการเขียนขึ้นของเราเองแล้ว ก็ถือว่าเรามีเนื้อหาที่มีคุณภาพระดับหนึ่งครับ แต่สิ่งที่คนเขียน Blog เป็นอาชีพต้องทำมากกว่านั้นก็คือทำให้บทความของเรามีคุณสมบัติตรงตาม Search Engine Optimization หรือเป็นมิตรกับ Search Engine นั่นเอง
สิ่งหลักๆเลยที่จะทำให้บทความของเรามีคุณสมบัติ SEO ที่ดีก็คือจะต้องเขียนโดยวางโครงสร้างให้เป็นระบบ ระเบียบ นั่นเองครับ เพื่อให้ Robot ของ Search Engine(ของ Google นั่นแหละ) เข้าใจว่าบทความของเรามันเขียนเกี่ยวกับอะไร อะไรคือ keyword สำคัญของบทความนั้น เพื่อที่ Robot จะได้เก็บข้อมูลของบทความนั้นไว้บนฐานข้อมูลได้ตรงกับเวลาที่คนมาคนห้าข้อมูลบน Google แต่ในส่วนของรายละเอียดที่ว่าจะต้องทำยังไงบ้างบทความของเราถึงจะมีคุณสมบัติ SEO ที่ดีจะไม่เขียนถึงในบทความนี้ครับ เพราะว่ารายละเอียดและ Requirement มีค่อนข้างเยอะ จะแยกไปเขียนเป็นบทความเฉพาะทางอีกบทความหนึ่งเลยละกันนะครับ
4.Content ได้รับการโปรโมต
เมื่อเรามี Content ที่ดี มีคุณภาพแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาที่จะต้องหาทางทำให้ content ของเราเป็นที่รู้จักแล้วล่ะครับ ซึ่งการ promote บทความของเรามีความสำคัญไม่แพ้กันกับการที่เราจะต้องสร้าง Content ที่ดี ทั้งสองอย่างนี้ควรจะทำไปพร้อมกัน เพราะว่าถึงแม้เราจะมี Content ที่ดีมากแค่ไหนก็ตาม แต่ว่าไม่มีคนอ่าน ไม่มีคนเข้าเว็บ ไม่มีใครรู้จักมัน มันก็แทบจะไร้ประโยชน์ ในทางกลับกันถ้าเรามีคอนเทนต์ที่ไมดี ไม่ได้มีคุณภาพและไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรให้คนอ่านจริงๆ ถึงเราจะโปรโมตเก่งแค่ไหนก็จะมีแต่ทำให้ web ของเราเสียชื่อเสียงเพราะคนอ่านก็จะรู้ว่าเราไปก็อปปี้เนื้อหา หรือเขียนอะไรมามั่วๆ ในเรื่องของการโปรโมต content ก็มีรายละเอียดอีกเยอะเช่นกันครับ ผมก็จะเขียนแยกออกไปเป็นอีกเรื่องนึงไปเลยเพื่อความชัดเจน
5.มีการเก็บ email list ของผู้อ่าน
บางคนอาจจะสงสัยว่าเราจะเก็บ Email ของผู้อ่านเราไปทำไม จริงๆแล้วเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ควรทำมากๆเพราะการมี Email list ของคนที่เข้ามาอ่าน Blog ของเราเปรียบเสมือนกับขุมทรัพย์ที่เราได้มาฟรีๆเลยล่ะครับ การทำแบบนี้รู้จักกันโดยทั่วไปในชื่อ Email marketing
สาเหตุก็เพราะว่ากลุ่มคนที่เค้าให้ Email เรามานั้นเป็นกลุ่มคนที่มีความสนใจในเนื้อหาของเราอยู่แล้ว เรียกว่าสนใจจริงๆถึงจะได้ให้ข้อมูลติดต่อเรามาเพื่อแลกกับประโยชน์อะไรบางอย่างจาก blog ของเรา เมื่อเราได้ email ของคนกลุ่มนี้มาแล้ว เราสามารถที่จะทำเนื้อหา,สินค้าหรือบบริการให้ตรงกับความต้องการกับคนกลุ่มนี้แล้วส่งเข้า email ของเค้าเพื่อเป็นการ Promote ได้ทันที เรียกว่าเป็นการโฆษณาที่ตรงกลุ่มเป้าหมายมากๆ โดยไม่ต้องนั่งสุ่มนั่งเดาเลย ไม่ต้องเสียตังค์ค่ายิงโฆษณา Facebook ด้วย เพราะฉะนั้นการสร้าง email list เป็นสิ่งที่ควรทำมากๆสำหรับคนทำ Blog แต่การจะได้ Email list มาได้ยังไงนั้นมันมีวิธีของมันอยู่ครับหลักๆที่เราต้องทำก็คือสร้างสิ่งตอบแทนที่ผู้อ่านของเราจะไปใช้ประโยชน์ได้เพื่อแลกกับ email ของพวกเค้านั่นเอง